Anantara Siam Bangkok Hotel สถานที่แต่งงานโดนใจ ใกล้ BTS
จริงๆ เบลล์ไปดูสถานที่มาหลายที่ ตั้งเป้าว่าอยากได้ที่เป็นโรงแรมห้าดาวแล้วก็อยู่ในเมืองค่ะ เพราะเจ้าบ่าวเป็นคนสิงคโปร์ มีเพื่อนต่างชาติมาเยอะ เลยอยากได้ที่ที่เดินทางสะดวก ซึ่งโรงแรม Anantara Siam Bangkok Hotel (อนันตรา สยาม กรุงเทพฯ โฮเทล) ก็อยู่ติดกับ BTS ราชดำริเลย เบลล์เคยไปงานแต่งครั้งนึง ที่นี่แตกต่างจากที่อื่นตรงที่มันมีบ่อน้ำอยู่ตรงข้างหน้าทางเข้า เบลล์เห็นแล้วรู้สึกชอบ ห้อง Ballroom เขาก็มีสไตล์แบบไทยๆ รู้สึกว่าสวยดี แขกเราไม่ได้เยอะ มีประมาณ 300 คน เลยไม่จำเป็นต้องเลือกห้องใหญ่มาก และเขาบริการค่อนข้างดี ที่นี่เลยตอบโจทย์ค่ะ
ด้วยความที่เบลล์เป็นคนค่อนข้างชอบดอกไม้ เลยมองหาโรงแรมที่สามารถจัดดอกไม้ได้สวย เพราะไม่อยากจ้างออแกไนเซอร์เพิ่ม อย่างมากอาจจะใช้แค่แบ็คดรอป ซึ่งเบลล์ใช้บริการของ Seethrough Wedding ที่เหลือใช้ของโรงแรม สิ่งนี้จึงเป็นเกณฑ์ในการเลือกโรงแรมของเบลล์ค่ะ
ในส่วนของการเก็บข้อมูลเตรียมงาน ส่วนตัวเบลล์เตรียมงานเอง ใช้เวลา 1 ปีค่ะ โดยหาข้อมูลจากหลายๆ เว็บ ซึ่ง SabuyWedding ก็เป็นเว็บที่เรามักจะเข้าไปดูอยู่เสมอค่ะ ส่วนใหญ่จะไลน์เข้าไปขอคำปรึกษา แล้วก็เคยไปงานอีเว้นท์ที่ The Berkeley Hotel Pratunam ค่ะ เบลล์ชอบตรงที่เว็บรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับงานแต่ง เช่น ช่างแต่งหน้า ช่างภาพ สถานที่ เหมือนเข้าไปทีเดียวก็ได้ทั้งหมดเลย ง่ายดี ดูรูปแบบการจัดงานที่ออกมาแล้วคนก็ชมว่าสวย เบลล์ว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ออแกไนเซอร์อย่างเบลล์ค่ะ
ธีมงาน Wedding passport แทนความรักของเรา
เพราะเบลล์เป็นคนไทย แฟนเป็นคนสิงคโปร์ เราจึงคบกันแบบ Long distance ประมาณ 2 ปีค่ะ ฉะนั้นเบลล์เลยมองหาธีมที่มันแทนตัวแทนของ Long distance relationship ได้ด้วย เลยได้เป็นธีม Wedding passport ค่ะ การ์ดแต่งงานก็เขียนว่า Wedding passport ของชำร่วยเบลล์ก็จะเป็นแบบป้ายห้อยกระเป๋าเดินทาง แล้วปั๊มโลโก้ให้มันเป็นธีมเดียวกัน เพื่อสื่อถึงความรักที่เราพยายามจะรักษาไว้ให้คงอยู่ตลอดไปของเบลล์แล้วก็แฟนค่ะ
ชุดเรียบง่ายมีกิมมิค
ด้วยความที่เบลล์เป็นคนตัวสูงมีเอวมีสะโพก เลยคิดว่าใส่ชุดทรงเมอร์เมดน่าจะเหมาะ แล้วต้องมีแพทเทิร์นเป็นลูกไม้สวย ซึ่งที่ร้าน Amata Wedding Studio ก็มีกระโปรงที่ต่อเป็นทรงหางปลายาวๆ พอใส่เข้ากับชุดแล้วดูสวยหรู ถูกใจเบลล์เลย ทำให้ดูสง่ามากเวลายืนบนเวทีค่ะ ส่วนของแฟนใช้บริการของ Suitcube ตัดสูทใหม่ใช้ผ้า Wool 100% ที่เขาเลือกสีเทาเพราะว่าเราเป็นคนจีน จึงไม่อยากใส่ทักซิโด้สีดำ ซึ่งดูแล้วเป็นทางการ แต่ก็มีความ Casual ในตัวเองค่ะ
การตกแต่งเนื่องจากโรงแรมเขามีบ่อน้ำทางเข้า เลยจัดดอกไม้วางแล้วก็มีรูปวางอยู่ริมทางเดิน ตรงนั้น Seethrough Wedding ช่วยวางรูปให้ ส่วนดอกไม้ทางโรงแรมจัดให้ค่ะ เขาจะมีให้เลือกว่าทางเข้าจะทำเป็นผ้าม่านลงมาหรือว่าเป็นแบบอื่น เบลล์เลยเลือกผ้าม่านเพราะว่ามันคลาสสิกดี
สำหรับในห้อง บนเวทีจะมีแจกันดอกไม้แล้วก็มีสแตนด์วาง ซึ่งอันนี้ทางโรงแรมทำให้ เขาจะมีรูปให้เราเลือก ซึ่งเบลล์ก็ชอบสไตล์นี้ รู้สึกว่ามันก็ดูเก๋ๆ ดี ส่วนตัวเค้กสแตนด์ ทางโรงแรมเขาจัดให้เหมือนกัน ให้เลือกภาพที่เราอยากได้ เบลล์ชอบดอกไม้ฟูๆ แล้วก็ชอบสีขาวส้มชมพู อยากให้มันดูหวานๆ ธีมสีของงานเลยเป็นสีเขียวทอง ใช้ดอกไม้สีขาว 60% สีชมพูส้ม 40% ค่ะ เบลล์ไม่ชอบอะไรที่มันหวือหวาต้องมีแสงสี ชอบที่เป็นสีธรรมดามากกว่า เพราะเบลล์คิดว่าเวลาผ่านไปแล้วเรากลับมาดู มันก็ยังดูคลาสสิก
อาหารเบลล์เลือกเป็นแบบค็อกเทลค่ะ เพราะว่าแขกผู้ใหญ่เยอะ เพื่อนเยอะ คิดว่าเดินหรือยืนไม่น่าจะสะดวก เลยจัดโต๊ะเสิร์ฟให้อยู่ข้างหลัง เป็นโต๊ะค็อกเทลเล็กๆ และมีโต๊ะข้างหน้าเป็น VIP ไว้ให้ญาติๆ นั่ง ข้างหลังก็จะมีโต๊ะให้แขกนั่งอีก 7-8 โต๊ะ เบลล์จัดเตรียมโต๊ะไว้เยอะมาก ถึงแม้จะเป็นงานค็อกเทลก็ตามค่ะ
เมนูเด็ดของที่นี่คือข้าวมันไก่ แล้วก็กระเพาะปลาเนื้อปูค่ะ เขาให้เนื้อปูเยอะมาก และเบลล์เตรียมอาหารไว้ค่อนข้างเยอะ ถึงแม้แขกจะ 300 คน แต่เบลล์เตรียมไว้ประมาณ 1,200 เบลล์คิดว่าเหลือดีกว่าขาด อยากให้มันพอแขกที่มามากกว่า
บรรยากาศในงานอบอุ่นเพราะครอบครัว
งานเราก็จะเป็นพิธีผสมผสานระหว่างไทยกับสิงคโปร์ค่ะ เริ่มต้นเปิดตัวด้วยวิดีโอว่ารู้จักกันยังไง พอบ่าวสาวขึ้นไปบนเวทีก็เปิดด้วยภาพงานหมั้น สัมภาษณ์บ่าวสาว ให้คำมั่นสัญญากัน หลังจากนั้นเราก็จะมีการรินแชมเปญของทางฝั่งสิงคโปร์ เขาจะมีพิธีที่เรียกว่า yam seng จะคล้ายๆ ไชโยของบ้านเรา แต่เขาจะพูดคำว่า yam ให้นานที่สุด ซึ่งมันสนุกมากค่ะ จะพาญาติ ครอบครัว เพื่อน ขึ้นมาบนเวทีแล้วก็จะช่วยกัน yam แขกทุกคนก็ช่วยกัน yam จนเสียงดังกึกก้องเพดานสั่นเลย (หัวเราะ) เบลล์ว่าน่ารักดี สนุกแล้วก็อบอุ่น จริงๆ ก่อนหน้ารินแชมเปญเบลล์มีร้องเพลงเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวด้วย เขาก็ตกใจไม่คิดว่าเราจะทำ แล้วก็ค่อยเดินไปที่สแตนด์ตัดเค้ก นำไปให้ผู้ใหญ่ โยนช่อดอกไม้ เป็นอันจบพิธีค่ะ
สิ่งที่ประทับใจคือ เบลล์ว่ารูปแบบของการตกแต่งงานมันออกมาค่อนข้างลงตัว ทุกคนที่มางานก็ชมว่างานสวย ดอกไม้สวย เขาก็ถามว่าเบลล์ออกแบบเอง เลือกเองเลยเหรอ เพราะเบลล์ไม่ได้ใช้ออแกไนเซอร์ อีกอย่างคือไม่มีผิดคิวเลย ทุกอย่างเป๊ะตามที่เราวางไว้ เบลล์ใช้เพื่อนเป็นพิธีกร เขาก็สามารถทำออกมาได้ดีเลยค่ะ
แนะนำบ่าวสาว
หาความชอบของตัวเองให้เจอ : เบลล์จะมองภาพรวมว่าจริงๆ แล้วเจ้าสาวต้องการอะไรในงาน คือเราต้องรู้ว่าตัวเราต้องการอะไร และหาแบบที่เราต้องการในราคาที่เราสามารถจ่ายได้ค่ะ
ดีลฝั่งเรากับฝังเจ้าบ่าวให้เข้าใจ : เบลล์จะอัพเดทเขาแล้วก็ถามว่ามีความคิดเห็นอะไรไหม หรือมีไอเดียอะไรที่อยากได้ไหม ให้เขาไปอัพเดทฝั่งครอบครัวของเขาเอง ว่าทางนั้นมีความต้องการอะไรเพิ่มเติมจากนี้ คือเบลล์พยายามให้ความต้องการของเขาและเราลงตัวกัน แต่จริงๆ เบลล์ว่าดีลกับฝั่งเขาไม่ยากเท่ากับฝั่งเราหรอกค่ะ (หัวเราะ)
รีแลกซ์ผ่อนคลาย : จริงๆ กดดันนะคะ เพราะว่าเราทำเองทุกอย่าง แต่เบลล์ก็พยายามผ่อนคลาย และคอยโทรไปคอนเฟิร์มกับทางร้านว่าทุกอย่างเรียบร้อยตามแผนหรือเปล่า หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตให้ตามปกติ ไปทำอะไรที่เราชอบ กินอะไรที่เราชอบ เราจะได้รู้สึกว่ารีแลกซ์ และไม่เครียดค่ะ
Credits & ร้านค้าแนะนำในบทความนี้
ช่างภาพ วิดีโอ:
BirdEyeView Wedding StudioWedding Planner:
SeeThrough Weddingช่างแต่งหน้า:
mookmakeการ์ดเชิญ ของชำร่วย:
Manita Wedding Print